WT100A Ultrasonic Thickness Gauge

WT100A วัดความหนาแบบอัลตร้าโซนิคแบรนด์ Wintach หน้าจอ LCD 4 หลักง่ายต่อการอ่านค่า  เครื่องวัดนี้ง่ายต่อการใช้และทนทาน ใช้เทคโนโลยีอัลตราโซนิคทำให้สามารถวัดความหนาของวัสดุเช่นเหล็ก อลูมิเนียม ไทเทเนียม พลาสติก เซรามิก แก้ว อะคริลิคและวัสดุอื่นๆ

 

มีย่านการวัดความหนา 1.00-225.0mm ด้วยค่าความถูกต้องแม่นยำ ± 0.5%

 

สำหรับการวัดความหนาของวัตถุหรือชิ้นงานโดยไม่ทำลายชิ้นงานเพราะทำการวัดด้วยคลื่นอัลตราโซนิค ทำให้ได้ค่าที่ถูกต้องแม่นยำ นิยมใช้ในงานควบคุมคุณภาพระหว่างการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป หรือใช้ตรวจสอบความหนาจากการสึกหรอเพื่อการบำรุงรักษา

 

มัลติฟังก์ชั่น: หน้าจอสี HD ขนาด 2.4 นิ้วพร้อมไฟพื้นหลังและหน้าจอสีที่เลือกได้ 5 สี จัดเก็บข้อมูลได้สูงสุด 500 รายการ ดูสถิติ สอบเทียบ ปิดอัตโนมัติ และคืนค่าฟังก์ชันการตั้งค่าจากโรงงาน การใช้งานที่หลากหลาย ใช้กันอย่างแพร่หลาย

Specification

• Measuring range 1.00～225.0mm
• Data storage 500
• Operation frequency 5MHz
• Measurement error ±(0.5%H+0.05)mm
• Resolution 0.01mm (1.00 to 99.99mm)
• Resolution 0.1mm (100 to 225mm)
• Lower limit of pipe Φ20x3mm (steel)
• Adjustment range of sound speed 1000～9999m/s
• Temperature range of operation 0～40℃
• Battery 3 Ni-MH rechargeable batteries of 1.2V
• USB charging 5V 1A
• Dimensions 65x146x30mm
• Weight 130G

หน้าจอแสดงผลการวัดและ Sound Speed

หมายเหตุ

การวัดความหนาด้วยอัลตราโซนิกเป็นเทคนิคการทดสอบแบบไม่ทำลายซึ่งใช้ในการกำหนดความหนาของวัตถุที่เป็นของแข็ง โดยทั่วไปจะเป็นโลหะ พลาสติก และวัสดุผสม มันอาศัยหลักการของอัลตราซาวนด์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแพร่กระจายของคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านวัสดุ

 

ในการวัดเซ็นเซอร์ (Probe) จะถูกวางไว้ที่ด้านหนึ่งของวัตถุและจะปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงเป็นพัลส์สั้นๆ คลื่นเสียงเหล่านี้จะเคลื่อนที่ผ่านวัสดุจนกระทั่งไปถึงด้านตรงข้ามหรือผิวสะท้อนภายในวัสดุ เมื่อคลื่นเสียงพบรอยต่อระหว่างวัสดุต่างๆ หรือพื้นผิวด้านหลังของวัตถุ คลื่นเสียงเหล่านั้นจะสะท้อนกลับไปยังทรานสดิวเซอร์

 

ทรานสดิวเซอร์ยังทำหน้าที่รับคลื่นเสียงที่สะท้อนกลับมา การวัดระยะเวลาที่คลื่นเสียงใช้ในการเคลื่อนที่ผ่านวัสดุและส่งกลับ ทำให้สามารถกำหนดความหนาของวัตถุได้ การวัดนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วของเสียงในวัสดุ ซึ่งโดยทั่วไปทราบหรือสามารถสอบเทียบได้

 

การวัดความหนาด้วยอัลตราโซนิกถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิต การก่อสร้าง น้ำมันและก๊าซ และการบำรุงรักษาและการตรวจสอบ เป็นวิธีที่รวดเร็วและแม่นยำในการระบุความหนาของวัสดุโดยไม่ต้องใช้การทดสอบแบบทำลาย

 

เทคนิคนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการประเมินการกัดกร่อน การสึกกร่อน หรือการทำให้วัสดุบางลงในโครงสร้างและอุปกรณ์

สามารถวัดวัสดุได้หลากหลาย

อุปกรณ์ครบชุดพร้อมใช้งาน

ข้อดีของของ WT100A

เครื่องมือวัดความหนาอัลตราโซนิกเป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ สำหรับวัดความหนาของวัสดุ โดยเฉพาะโลหะ โดยไม่จำเป็นต้องมีการทดสอบแบบทำลาย ต่อไปนี้คือประโยชน์

1. การทดสอบแบบไม่ทำลาย: ข้อดีอย่างหนึ่งที่สำคัญคือสามารถทดสอบแบบไม่ทำลายได้ ซึ่งหมายความว่าสามารถวัดได้โดยไม่ทำให้วัสดุที่กำลังทดสอบเสียหาย ช่วยให้สามารถวัดค่าได้อย่างสม่ำเสมอและซ้ำๆ โดยไม่กระทบต่อความสมบูรณ์ของโครงสร้างของวัสดุ ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการตรวจสอบส่วนประกอบหรือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ

 

2. ความแม่นยำ: ให้การวัดที่มีความแม่นยำสูง ด้วยอัลกอริทึมการประมวลผลสัญญาณขั้นสูงและคลื่นเสียงความถี่สูง เครื่องวัดเหล่านี้สามารถวัดได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับการควบคุมคุณภาพ การประเมินความปลอดภัย และวัตถุประสงค์ในการบำรุงรักษา

 

3. ช่วงการใช้งานกว้าง: เป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ที่สามารถใช้กับวัสดุต่างๆ รวมถึงโลหะ เช่น เหล็ก อลูมิเนียม และทองแดง ตลอดจนพลาสติก วัสดุผสม และแก้ว โดยทั่วไปจะใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิต การก่อสร้าง น้ำมันและก๊าซ การบินและอวกาศ การต่อเรือ และอื่นๆ อีกมากมาย

 

4. การวัดที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ: ให้ความสามารถในการวัดที่รวดเร็ว ทำให้สามารถประเมินความหนาของวัสดุได้อย่างรวดเร็ว มิเตอร์ให้การอ่านตามเวลาจริง ลดเวลาการตรวจสอบ และเพิ่มผลผลิต ผู้ปฏิบัติงานสามารถย้ายจากจุดวัดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ทำการสำรวจความหนาอย่างครอบคลุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

5. การพกพาและใช้งานง่าย: เป็นอุปกรณ์พกพาที่มีน้ำหนักเบาและพกพาสะดวก ได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวกของผู้ใช้และโดยทั่วไปมีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และการควบคุมที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ในระดับต่างๆ สามารถเข้าถึงได้ บางรุ่นยังมีการเชื่อมต่อไร้สายและความสามารถในการบันทึกข้อมูลเพื่อการจัดการข้อมูลที่ราบรื่น

 

6. การประเมินการกัดกร่อนและการสึกกร่อน: นิยมใช้เพื่อประเมินความหนาของวัสดุที่ได้รับผลกระทบจากการกัดกร่อนและการสึกกร่อน ด้วยการตรวจสอบความหนาของวัสดุอย่างสม่ำเสมอในส่วนประกอบที่สำคัญ