การไหลของอากาศ (Airflow) คือการเคลื่อนที่ของอากาศในบริเวณพื้นที่ทที่สนใจสาเหตุหลักของการไหลของอากาศ อากาศมีพฤติกรรมเป็นของไหลหมายความว่าอนุภาคจะไหลจากบริเวณที่มีความดันสูงกว่าไปยังบริเวณที่ความดันต่ำกว่า ความกดอากาศของบรรยากาศเกี่ยวข้องโดยตรงกับความสูง อุณหภูมิ และองค์ประกอบอื่นๆ
ในทางวิศวกรรมการไหลของอากาศหรือลม (Air flow) คือการวัดปริมาณลมต่อหน่วยเวลาที่ไหลผ่านอุปกรณ์หนึ่งๆ สามารถอธิบายได้ว่าเป็นอัตราการไหลของปริมาตร (ปริมาตรของอากาศต่อหน่วยเวลา) หรืออัตราการไหลของมวล (มวลของอากาศต่อหน่วยเวลา) สิ่งที่เกี่ยวข้องกับคำอธิบายทั้งสองรูปแบบคือความหนาแน่นของอากาศ ซึ่งเป็นฟังก์ชันของความดันและอุณหภูมิผ่านกฎของก๊าซในอุดมคติ
การไหลสามารถถูกชักนำด้วยวิธีทางกล (เช่น โดยการใช้พัดลมไฟฟ้าหรือพัดลมแบบแมนนวล) หรือสามารถเกิดขึ้นแบบพาสซีฟ โดยเป็นฟังก์ชันของความแตกต่างของแรงดันที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อม
หน่วยการไหลของอากาศ (Unit Air flow)
หน่วยทั่วไปสามารถแบบได้ 2 ชนิดซึ่งสามารถแบบได้ตามปริมาตรและมวลได้แก่
โดยปริมาตร
- 1) ลิตร/วินาที (ลิตรต่อวินาที)
- 2) ลบ.ม./ชม. (ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง)
- 3) m3/min (ลูกบาศก์เมตรต่อนาที)
- 4) ft3/h (ลูกบาศก์ฟุตต่อชั่วโมง)
- 5) ft3/min (ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที หรือที่รู้จักกันว่า CFM)
โดยมวล
- 1) กก./วินาที (กิโลกรัมต่อวินาที)
การไหลของอากาศสามารถอธิบายได้ในแง่ของการเปลี่ยนแปลงของอากาศต่อชั่วโมง (ACH) ซึ่งบ่งชี้ถึงการแทนที่อย่างสมบูรณ์ของปริมาตรของอากาศที่เติมในพื้นที่ดังกล่าว หน่วยนี้มักใช้ในสาขาวิทยาศาสตร์อาคาร โดยมีค่า ACH สูงกว่าซึ่งสอดคล้อง
การวัดการไหลของอากาศ
เครื่องมือที่ใช้วัดการไหลเรียกว่าเครื่องวัดการไหลของอากาศหรือเครื่องวัดความเร็วลมยังใช้ในการวัดความเร็วลมและอากาศภายในอาคารอีกด้วย
มีหลายประเภท รวมทั้งโพรบวัดความเร็วลมแบบตรง ออกแบบมาเพื่อวัดความเร็วลม ความดันแตกต่าง อุณหภูมิ และความชื้น สำหรับการใช้เครื่องวัดแบบใช้ใบพัดหมุนใช้สำหรับวัดความเร็วลมและการไหลเชิงปริมาตร และเครื่องวัดความเร็วลมทรงกลมร้อน
เครื่องวัดความเร็วของลมอาจใช้อัลตราซาวนด์หรือลวดตัวต้านทานเพื่อวัดการถ่ายโอนพลังงานระหว่างอุปกรณ์ตรวจวัดและอนุภาคที่ผ่าน ตัวอย่างเช่น เครื่องวัดความเร็วลมแบบลวดร้อนจะบันทึกการลดลงของอุณหภูมิของเส้นลวด ซึ่งสามารถแปลงเป็นความเร็วลมได้โดยการวิเคราะห์อัตราการเปลี่ยนแปลง การระบายความร้อนด้วยการพาความร้อนเป็นฟังก์ชันหนึ่งของอัตราการไหลของลม และความต้านทานไฟฟ้าของโลหะส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของโลหะ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบายความร้อนด้วยการพาความร้อน
วิศวกรได้ใช้ประโยชน์จากปรากฏการณ์ทางกายภาพเหล่านี้ในการออกแบบและใช้งานเครื่องวัดแบบลวดร้อน เครื่องมือบางอย่างสามารถคำนวณการไหลของลม CFM CMM อุณหภูมิกระเปาะเปียก จุดน้ำค้าง
การจำลอง (Simulation)
สามารถจำลองการไหลของลมโดยใช้แบบจำลอง Computational Fluid Dynamics (CFD) หรือสังเกตได้จากการทดลองผ่านการทำงานของอุโมงค์ลม สิ่งนี้อาจใช้ในการทำนายรูปแบบการไหลของอากาศรอบๆ รถยนต์ เครื่องบิน และเรือเดินทะเล รวมถึงการซึมผ่านของอากาศในเปลือกอาคาร
0 Comment